ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน (ตอนที่ 3)

ฉันไม่ใช่คนเก่งกาจ....ฉันแค่ไม่เคยรอวาสนา....ฉันต่อสู้ทุกอย่างกว่าจะได้มา
ฉันจึงรู้คุณค่าความเป็น  "คน"
--------------------------------
"คน"   คือ  การกวน ผสม ปนเป รวบรวมสิ่งต่างๆ ให้เข้ากัน รวมเป็นหนึ่ง

กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องของหัวใจตัวเอง...หวังว่าเพื่อนๆ ยังคงจำกันได้กับบทความที่ผ่านมาของนีน่านะคะ...กำลังอยู่ในห้วงอารมณ์เจ้าบทเจ้ากลอน...จึงคิดถึงบล็อกนี้ขึ้นมา....จำได้ว่า....กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว...ได้เขียนบทความดีๆ ให้เพื่อนๆ ได้อ่าน....นับจากวันนั้นถึงถึงวันนี้ก็ประมาณ 3 เดือน แล้วค่ะ...วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน...จนบางครั้งรู้สึกใจหาย...นับตัวเลขอายุอานาม...ก็เพิ่มมากขึ้นไปทุกวัน...จึงอยากให้ทุกคนได้สนุกกับชีวิต...มีความสุขกับทุกช่วงวัย...แต่ละช่วงชีวิตมีอะไรหลายอย่างที่ทำแตกต่างกันไป...คนบางคนมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว...จนลืมช่วงเวลาแห่งความสุขสนุกของชีวิตไป...หวังเพียงเพื่อให้ตนเองได้สุขสบายในบั้นปลายชีวิต...รู้ตัวอีกทีก็แก่เสียแล้ว....จะกินจะเที่ยวเหมือนตอนสมัยหนุ่ม ๆ ก็ลำบาก....เพราะฉะนั้น จงสนุกกับชีวิต...ไม่ว่าเรื่องดีหรือร้ายที่ผ่านเข้ามา...ให้คิดเสียว่าทุกอย่างเป็นบทเรียน...เต็มที่กับทุกวัน...ทำวันนี้ให้เหมือน...ไม่มีพรุ่งนี้...แล้วชีวิตจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป




ฮ่า ฮ่า ฮ่า เห็นภาพแบบนี้แล้ว...เพื่อนๆ  อย่าคิดว่านี้คือบล็อก NINA พาเที่ยวนะคะ...แค่นำมาประกอบการบรรยายให้ได้เห็นถึงอารมณ์หรือ feeling ของการสนุกกับชีวิตในทุกช่วงเวลาเท่านั้นค่ะ...แต่ชีวิตคนเราจะกินจะเที่ยวอย่างเดียวก็ไม่ได้...ต้องทำงานด้วยนะคะ อย่าขี้เกียจ ขอย้ำ...คนบางคน บ่นโทษดินโทษฟ้า โทษสิ่งต่างๆ รอบตัว ที่ทำให้ตนเองยากจน ไม่มีกินมีใช้....แต่คนเหล่านั้นเคยคิดทบทวนหรือถามตัวเองหรือยังว่า...ขยันพอหรือยัง...มีความอดทนพอหรือยัง...มีความมานะพยายามมากพอหรือยัง...นี่คือสัจธรรมของชีวิตค่ะ...ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น...ทำงานก็มีกินมีใช้....ไม่ทำงานก็ไม่มีกินไม่มีใช้....นอกเสียจากว่า...คุณเกิดมาบนกองเงินกองทองที่กินใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมดเท่านั้น...แต่จะมีสักกี่คนที่โชคดีแบบนี้...มาสร้างทุกอย่างด้วยตัวของเราเองจะดีกว่า...ความรู้สึกภูมิใจมันต่างกันค่ะ


อารัมภบทมาซะยาว...มาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่าค่ะ...จากตอนที่แล้วเมื่อเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ...เห็นสภาพแวดล้อมเมืองกรุงแล้วชวนขนลุกขนพอง....พักอยู่กับคนรู้จักได้หนึ่งคืน...เจ้านายคนใหม่ก็มารับไปทำงาน...แม่กับน้องชายจึงเดินทางกลับ

บ้านที่เจ้านายพามาทำงานเป็นเทาน์เฮ้าส์อยู่แถวปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี...หน้าที่ของนีน่าคือทำความสะอาดบ้านและดูแลลูกสาวตัวเล็กๆ ของเค้าซึ่งอายุประมาณ 3 ขวบ...เจ้านายคนใหม่เป็นคนสวยและใจดี...เธอมาทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เรียนจบ...ด้วยความสาวความสวยทำให้กลายเป็นอนุภรรยาของเถ้าแก่ไปโดยปริยาย...จนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน....เถ้าแก่ทั้งรักทั้งหลงเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี...มีบ้านมีรถยนต์ใช้...มีธุรกิจให้ดูแล...เรียกว่าได้ดิบได้ดีและไม่ต้องลำบากอีกต่อไป


มาทำงานที่นี่ไม่ลำบากมาก...แต่รู้สึกเหงาเป็นบางครั้ง...เพราะวันจันทร์ถึงศุกร์ช่วงกลางวันต้องอยู่บ้านคนเดียว...เจ้านายไปทำงานและลูกสาวเค้าก็ไปโรงเรียน....ทำงานได้ไม่นานนัก...ธุรกิจที่เจ้านายดูแลก็ขยายสาขาไปที่เชียงใหม่....ซึ่งเป็นธุรกิจร้านอาหาร เปิดจำหน่ายอาหารใน Food Center ของห้างดังต่างๆ เช่น เดอะมอลล์, เซ็นทรัล และอีกหลายสาขา...ซึ่งเจ้านายบอกว่า ห้างเซ็นทรัลกาดสวนแก้วและแอร์พอร์ตพลาซ่า กำลังจะเปิดเร็วๆ นี้...ดังนั้นเราทั้งหมดต้องย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่...และให้นีน่าไปฝึกทำงานที่ห้างเดอะมอลล์...ก่อนที่จะย้ายไปอยู่เชียงใหม่

เมื่อการทำงานที่ห้างเริ่มขึ้น...เด็กหญิงต่างจังหวัดในวัยเพียง 12 ปี ต้องนั่งรถประจำทางไปทำงานด้วยตนเองทุกวัน... A small girl  ในดินแดนพิศวง...ความงงงวยของชีวิตก็เข้ามาเยือน...บ่อยครั้งที่นีน่านั่งรถประจำทางผิดสาย...เพราะรู้สึกสับสนและต้องนั่งรถหลายต่อประมาณสองชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมาย...ซึ่งทุกครั้งที่หลงทาง...ก็จะพยายามมองหาหนทางไปต่อให้จนได้...ถึงแม้จะถึงที่หมายปลายทางช้าหรือสายไปบ้าง ก็จะบอกกับตัวเองเสมอว่า "ไม่เป็นไร"  เพราะความผิดพลาดทุกอย่างมันคือ ประสบการณ์ชีวิต


....Discover your fun and enjoy with everything in your life...