คำสอนของขงจื้อได้เขียนไว้แล้วกว่าพันปี มีเนื้อหาว่า....ถ้าคุณคิดจะเป็นใหญ่ คุณก็จะได้เป็นใหญ่....ถ้าคุณคิดอยากเป็นอะไร คุณก็จะได้เป็นสิ่งนั้น....เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย....เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส....เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย....ดังนี้แล้ว ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน
ในโพสต์ที่แล้ว นีน่าเขียนเรื่อง "เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้" เป็นบทความให้กำลังใจเพื่อนๆ เล่าผ่านประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตวัยเด็กของนีน่า...เชื่อว่าหลาย ๆ คน.....เมื่อได้อ่านแล้ว คงมีกำลังใจลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหาไม่มากก็น้อยนะคะ
บนโลกที่กว้างใหญ่ใบนี้....ไม่ได้มีแค่เราเพียงคนเดียวหรอกค่ะที่กำลังประสบปัญหา..หรือพบเจอกับอุปสรรคมากมาย....มีคนอีกไม่รู้กี่ล้านคนที่มีชีวิตที่แย่กว่าเราหรือมีปัญหามากกว่าเรา....ขอแค่มีสติ คิดทบทวนไตร่ตรอง...สำรวจตัวเอง...ไม่โทษดินโทษฟ้า....มีทัศนคติเชิงบวก....มองเห็นโอกาสในทุกปัญหา....มองเห็นปัญหา คือ หนทางแห่งความสำเร็จ....นีน่าเชื่อว่าไม่นานหรอกค่ะ...ทุกอย่างที่เป็นปัญหาก็จะคลี่คลาย...สิ่งดีๆ ที่เรารอคอยอยู่...ก็จะมาปรากฎให้เราเห็นอย่างเหลือเชื่อ....เขียนแค่นี้คงไม่มีใครเชื่อ....หรือบางคนอาจกำลังคิดในใจอยู่ว่า....สงสัยจะงมงาย เพ้อเจ้อ ฝันลมๆ แล้งๆ...ไม่ผิดหรอกค่ะที่คิดแบบนั้น...นานาจิตตัง...มาอ่านเรื่องราวชีวิตของนีน่ากันต่อเลยดีกว่าค่ะ...Let's go!
หลังจากจบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และหมดโอกาสที่จะศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยม...นีน่าก็ไปสมัครทำงานที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่งอยู่แถวๆ บ้าน....ซึ่งร้านนี้จะมีการขายกับข้าวในช่วงเย็นด้วย....หากเพื่อนๆ มีประสบการณ์ในการทำอาหารก็จะทราบว่า...อุปกรณ์ในการทำอาหาร เช่น หม้อ ทัพพี ถ้วย ช้อน จาน ชาม ต่างๆ หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว...จะต้องนำมาล้างทำความสะอาด...ลองนึกภาพดูค่ะ...ขนาดเราทำกับข้าวกินที่บ้าน กินกันแค่ 2-5 คน เท่านั้น....อุปกรณ์พวกนี้ยังเยอะเลยค่ะ ...แต่นี่คือร้านขายกับข้าวให้คนทั้งหมู่บ้านได้ซื้อกิน...คิดดูนะคะว่าอุปกรณ์ที่จะต้องนำมาล้างทำความสะอาด...มันจะกองมหึมาขนาดไหน...นั่นแหละค่ะ หน้าที่ของเด็กหญิงนีน่า....ก้มหน้าก้มตา ล้างให้หมด ล้างให้สะอาด ค่าจ้างวันละ 20 บาท คุ้มสุดๆ
งานแรกผ่านไปอดทนทำได้ประมาณ 1 เดือน ก็มีคนรู้จักแนะนำให้ไปทำงานร้านอาหารแห่งใหม่...อยู่ที่อำเภอสันกำแพง....ด้วยความเป็นเด็กอายุอานามก็แค่ 11 ปีกว่า ๆ ...ต้องออกจากบ้านไปทำงานต่างจังหวัดเป็นครั้งแรกในชีวิต....รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก...นั่งเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า...ความรู้สึกตอนนั้นเศร้ามาก น้ำตาไหลพรากๆ ....ถือกระเป๋าสีเขียวใบเล็ก ๆ เก่าๆ ใบหนึ่ง เก็บเสื้อผ้าเก่าๆ ที่คิดว่าสวยและดูดีที่สุดประมาณ 3 ชุด ยัดใส่ในนั้น....เดินไปขึ้นรถกระบะสีขาวคันหนึ่งที่มาจอดรอรับ...ก่อนขึ้นรถเหลียวมองหน้าแม่กับน้องที่เดินมาส่งขึ้นรถอีกครั้ง...น้ำตาไหลร้องไห้สะอึกสะอื้นตลอดทาง...รู้สึกคิดถึงบ้าน...คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงน้องๆ เหลือเกิน
เมื่อเดินทางมาถึงร้านอาหาร....วันนั้นเป็นวันหยุดพอดี...จึงยังไม่ต้องเริ่มทำงาน....ร้านอาหารแห่งนี้เปิดขายอาหารตอนกลางวันและเปิดเป็นคาราโอเกะในตอนกลางคืน......พี่ๆ หลายคนเห็นนีน่ามีท่าทางซึมเศร้าตาแดงๆ...จึงเข้ามาปลอบและให้กำลังใจ...เมื่อเริ่มรู้สึกดีขึ้นคิดอย่างเดียวว่าต้องอยู่ที่นี่ให้ได้..เพื่อเก็บเงินส่งให้แม่ได้ใช้จ่าย....นอนร้องไห้ได้แค่คืนเดียว วันรุ่งขึ้น....แม่ก็อุ้มน้องชายนั่งรถสองแถวมาหาที่ร้าน...บอกเจ้าของร้านว่าสงสารลูกที่เห็นลูกร้องไห้ก่อนขึ้นรถ...แม่คิดว่าลูกคงไม่อยากมาทำงานที่นี่...ขอมารับกลับบ้านวันนี้เลย...นี่แหละค่ะหัวอกคนเป็นแม่...ไม่มีแม่คนไหนหรอกค่ะที่ไม่รักลูก...วันไหนที่เรายิ้ม:)....หัวใจของแม่ก็จะมีความสุขกับเรา...แต่ถ้าวันไหนที่เราร้องไห้ T_T.... หัวใจของแม่ก็แตกสลายและเป็นทุกข์ไม่น้อยไปกว่าเรา...รักท่านให้มากๆ นะคะ
เมื่อได้กลับมาอยู่บ้านพร้อมหน้าครอบครัวอีกครั้ง....รู้สึกดีใจมาก....จากไปแค่คืนเดียวแต่รู้สึกเหมือนจากชั่วนิรันดร์....รีบไปสมัครทำงานที่ใหม่ทันทีค่ะ...อยู่แถวบ้าน..เป็นร้านขายส่งแหนมกับแคบหมูหน้าที่ของนีน่า คือ นั่งห่อแหนม ค่าจ้างวันละ 20 บาท...พอดีช่วงนั้นเป็นช่วงเก็บลำไยพอดี...มีคนมาจ้างให้ไปเก็บลำไยค่าจ้างวันละ 100 บาท.......จึงขอเจ้าของร้านพักงานห่อแหนมไว้ก่อน...แล้วไปเก็บลำไยต่อ...งานที่นี่ไม่หนักมาก นั่งท้ายรถกระบะไปทำงาน เช้าไป เย็นกลับ ทำงานกับกลุ่ม สว. สนุกมาก (ปล. เพื่อนๆ คงไม่คิดว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะมานั่งเก็บลำไยวันละ 100 นะคะ.....สว. แปลว่าสูงวัยค่ะ) อายุบุคลากรที่มาทำงานด้วยกันนี้ รวมกันแล้วคงเป็นพันปีอ่ะค่ะ....ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 45-60 ปี ....ส่วนนีน่า 11 ย่าง 12 ค่ะ เลยรู้สึกสนุกมาก เวลาผู้สูงวัยเล่าเรื่องสนุกๆ ให้ฟัง
ทำงานได้สักระยะ....ก็หมดฤดูเก็บเกี่ยวลำไย...พอดีช่วงนั้นมีคนมาติดต่อให้ไปทำงานที่เชียงใหม่...เป็นร้านเสริมสวย...เจ้าของร้านรู้จักกับพ่อแม่....เลยมาติดต่อให้ไปทำงานที่นี่....โดยจะจ่ายค่าจ้างให้เดือนละ 300 บาท...แม่เห็นว่าเป็นงานที่ดี...ถือว่าเป็นการฝึกอาชีพไปด้วย...ถึงค่าตอบแทนจะน้อย แต่ก็ได้ความรู้และสามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพได้...อีกทั้งไม่ได้ไปทำงานคนเดียว...มีลูกพี่ลูกน้องของนีน่าไปด้วยอีกคน...ซึ่งเราสองคนสนิทสนมกันพอสมควร....การจากบ้านไปทำงานในครั้งนี้ จึงรู้สึกดีและมีความสุขกว่าครั้งก่อน
เห็นมั้ยคะเพื่อนๆ ว่าชีวิตของนีน่าลำบากแค่ไหน...ไม่ง่ายเลยใช่มั้ยคะ....นี่แค่เสี้ยวหนึ่งของชีวิตการทำงานเท่านั้นนะคะ....เขียนมาได้ขนาดนี้แล้ว ยังมองไม่เห็นหนทางที่จะมีโอกาสดีๆ...เข้ามาในชีวิตเลยค่ะ......เหลือบมองนาฬิกา ขณะนี้เป็นเวลา 3.06 am. แล้วค่ะ ได้เวลา Time to bed แล้วค่ะ ไว้จะมาเล่าเรื่องราวเป็นบทความดีดีให้เพื่อนๆ ได้อ่านในโพสต์ต่อไปนะคะ....วันนี้พอแค่นี้ก่อน Good night ค่ะ
- We write our own destiny, We become what we do -
"ความสำเร็จที่จะได้มานั้น....มันไม่ได้มาจากโชค....ไม่ได้มาจากฟ้าลิขิต....ไม่ได้อยู่เฉยๆ มันก็มาเอง....ความสำเร็จทุกอย่างนั้นมาจากการที่เราต้องลงมือสร้างมันขึ้นมา....ทำมันขึ้นมาด้วยตัวเราเอง....อาจจะต้องใช้เวลา....แต่ถ้าเราค่อยๆ ทำมันทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน....วันหนึ่งความสำเร็จก็จะมาหาเรา"
"ความสำเร็จที่จะได้มานั้น....มันไม่ได้มาจากโชค....ไม่ได้มาจากฟ้าลิขิต....ไม่ได้อยู่เฉยๆ มันก็มาเอง....ความสำเร็จทุกอย่างนั้นมาจากการที่เราต้องลงมือสร้างมันขึ้นมา....ทำมันขึ้นมาด้วยตัวเราเอง....อาจจะต้องใช้เวลา....แต่ถ้าเราค่อยๆ ทำมันทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน....วันหนึ่งความสำเร็จก็จะมาหาเรา"
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น