หลังจากที่ห่างหายจากบล็อกนี้มานานหลายวัน มัวแต่ไปโม้เรื่องการท่องเที่ยวในบล็อกพาเที่ยว..... http://ninapatell.blogspot.com/ (NINA พาเที่ยว) วันนี้ว่างงานเป็นวันแรก...เลยขอเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ชีวิตของตัวเองให้เพื่อนๆ ฟังกันต่อนะคะ
หลังจากที่พ่อแม่อนุญาตให้ไปทำงานที่ร้านเสริมสวยในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว...ตอนนั้นอายุประมาณ 11 ย่าง 12 ปี...ทำงานได้ค่าจ้างวันละ 10 บาท เดือนละ 300 บาท...อาหารฟรี ที่พักฟรี...ทำงานไม่มีวันหยุด...เริ่มงานประมาณ 6.00 โมงเช้า..ก็ตั้งแต่ตื่นลืมตานั่นแหละค่ะ....ทำงานถึงประมาณ 2 ทุ่ม ร้านก็ปิด....เริ่มงานตอนเช้าตรู่โดยต้องนำผ้าเช็ดผมผืนเล็กๆ กองใหญ่ๆ มาซักตากให้แห้ง (ซักมือนะคะไม่มีเครื่องซักผ้าให้) หลังจากนั้นก็ทำความสะอาดบริเวณร้าน...ซึ่งร้านที่ทำงานอยู่นี้เป็นตึกแถว 3 ชั้น..ครั้งแรกที่มาอยู่เจ้าของร้านให้พักที่ห้องรับแขก...เป็นห้องพักที่ค่อนข้างดีมาก...ยังอดคิดไม่ได้ว่า....เจ้าของร้านใจดีจังเลย...ให้ลูกจ้างพักห้องที่ใหญ่กว่าห้องของตัวเองอีก...แต่ผ่านไปได้เพียงอาทิตย์เดียวเท่านั้น.....เจ้าของร้านก็บอกให้นีน่ากับเพื่อนย้ายขึ้นไปพักชั้นบนสุด...เป็นห้องเล็กๆ ปูที่นอนบางๆ นอนกับพื้น....มีกระจกเก่าๆ ที่ใช้แล้วหนึ่งใบ....ให้ไว้ส่องดูเงาตัวเอง
สำหรับการทำงานหน้าร้านเสริมสวย...นีน่ากับเพื่อนได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยช่าง...ฟังดูดีนะคะ...หน้าที่จริงๆ คือ เด็กสระผม...ทำเล็บมือเล็บเท้า...ยืนจับไดร์เป่าผมให้ช่าง...อะไรประมาณนี้แหละค่ะ...ถ้าวันไหนลูกเยอะก็ยืนกันทั้งวัน...ข้าวปลาไม่ต้องถามหา...ต้องสลับสับเปลี่ยนกันมากิน...ส่วนอาหารที่ทางร้านจัดไว้ให้เท่าที่จำได้ก็คือ..ผัดผักรวม...ได้กินแทบทุกวัน...สงสัยเจ้าของร้านอยากให้เรามีสุขภาพดี...กินผักเยอะๆ จะได้แข็งแรง :) แต่ก็อร่อยดีค่ะ....ทานกับข้าวสวยร้อนๆ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ทำงานที่นี่ได้ 1 ปีเต็มก็ขออนุญาตเจ้าของร้านลาออกจากตำแหน่ง..แต่เพื่อนยังทำงานต่อ...สาเหตุที่ต้องลาออกเป็นเพราะ....ตอนกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว...แม่เล่าให้ฟังว่า....ลูกสาวของยายข้างบ้านอยากได้พี่เลี้ยงเด็ก...ไปดูแลลูกสาวตัวเล็กๆ ของเค้าที่กรุงเทพฯ อายุประมาณ 3 ขวบ ซึ่งยายที่พูดถึงนี้ คือ หมอตำแยทำคลอดให้แม่ตอนที่นีน่าคลอด เพราะสมัยก่อนต้องทำคลอดกันเองในหมู่บ้าน...ใช้บริการจากหมอตำแย....ไม่ได้ไปคลอดที่โรงพยาบาลเหมือนปัจจุบัน....เนื่องจากโรงพยาบาลอยู่ไกลประมาณ 30 กิโลเมตร...การเดินทางและถนนหนทางยังไม่พัฒนาเหมือนปัจจุบัน...รวมทั้งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยังมีฐานะยากจนกันอยู่...ต้องใช้เกวียนเป็นพาหนะ
เมื่อตัดสินใจลาออกงานที่ร้านเสริมสวย....ก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปทำงานกับลูกสาวของหมอตำแย...ซึ่งการเดินทางไปกรุงเทพฯ ครั้งแรกในชีวิตนี้...ต้องติดสอยห้อยตามคนรู้จักไป...ไม่ได้เดินทางไปกับนายจ้างคนใหม่หรอกค่ะ...เขาบอกจะรอรับอยู่ที่กรุงเทพฯ ...จึงทำให้แม่เป็นห่วงและขอเดินทางไปส่งนีน่าที่กรุงเทพฯ ด้วยคน...โดยพาน้องชายคนเล็กที่อายุประมาณ 2 ขวบกว่าๆ เดินทางไปด้วยกัน
ชีวิตของคนต่างจังหวัดเมื่อต้องเดินทางเข้ามาทำงานและพักอาศัยอยู่ใน "กรุงเทพมหานคร" เมืองหลวงของประเทศไทย...ที่ใครหลายคนต่างคิดว่า...ศิวิไลซ์และกว้างใหญ่ไพศาล....ภาพของเพื่อนบ้านที่นีน่ารู้จัก...ในยามที่กลับมาเยี่ยมบ้านทุกครั้ง....พวกเขาช่างดูดีมีสกุลเสียเหลือเกิน...แต่งตัวดี...ซื้อของมาฝากพ่อกับแม่แทบทุกครั้ง...ดูดีมีเงินใช้แบบสุขสบาย....ซึ่งมันทำให้นีน่าเข้าใจว่า....พวกเขาคงอยู่ดีมีสุข...ได้อยู่ในสถานที่ที่สุขสบาย...ทำงานดี...มีบ้านพักหลังใหญ่...มีอาหารดีๆ อร่อยๆ ให้กินทุกวัน....มีรถเก๋งคันโตคอยรับส่ง...และอีกมากมายในจินตนาการของหนูน้อยนีน่าที่คิดและเข้าใจไปเอง....แต่ก็นั่นแหละค่ะ....มันคือ จินตนาการ ของหนูน้อย....เข้าใจผิดและคิดไปเอง...ในโลกแห่งความจริงแล้ว....ทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิดที่หวังไว้เลยสักนิด
สภาพแวดล้อมที่พวกเขาอยู่ในแต่ละวัน...วิถีชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรน...ต้องนั่งรถประจำทางวันละหลายชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง...ต้องพักอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ แคบๆ ซึ่งดูไม่ Balance กับจำนวนผู้พักอาศัยหลายชีวิตเอาเสียเลย....ถนนหนทางที่เดินเข้าไปบริเวณห้องเช่าก็สุดแสนจะน่ากลัว...เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายอาชีพ....หลากหลายแบบ....รวมทั้งคนงานต่างด้าวที่พักอาศัยอยู่บริเวณนั้นกำลังนั่งล้อมวงดื่มสุราอยู่สองข้างทางอย่างสนุกสนาน...เห็นภาพเช่นนั้นแล้ว...A Small girl in the Big City ก็อดหวั่นใจไม่ได้ว่า....ตนเองจะสามารถทำงานและอาศัยอยู่ในเมืองอันศิวิไลซ์นี้ได้นานแค่ไหน
หลังจากได้เห็นวิถีชีวิตของคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานอยู่ในกรุงเทพแล้ว....ทำให้นีน่าคิดมาโดยตลอดว่า.......ถ้าชีวิตเลือกได้.......ขอใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดจะดีกว่า
นั่งมองท้องทุ่งสีเขียวขจี......มีความสุขกับไอดินกลิ่นหญ้า...มันช่างหอมหวลชวนเคลิบเคลิ้มเหลือเกิน....ได้เวลา Relax อีกแล้วค่ะเพื่อนๆ ขอไปจิบกาแฟหอมๆ ก่อนสักแก้ว...แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อตอนหน้า...วันนี้ ขอให้ทุกคนมีความสุขค่ะ Have a good day ^_^